>>> เอ็มวีในช่องของค่ายราเม็งนะครับ มันจะโดนบล็อกไม่ให้เราดู ให้ดูแค่คนอังกฤษครับเพราะเค้าจะไปเปิดคอนที่อังกฤษไงครับ แถมชื่อเพลงในเอ็มวีนี้จะมีวงเล็บไว้ด้วยว่า(UK VERSION) แต่ผมก็ไปค้นไปคุ้ยหามาเจอจนได้ ช่วงหลังๆภาพอาจตามเสียงไม่ทันหน่อยนะครับ แต่ก็ยังเจ๋งอยู่ดีครับ วงนี้ "ทเว็นตี้วันไพล็อต"
>>> ส่วนเพลงก็ทำผมปวดหัวสมชื่อเลยครับ แปลยากโคตรๆเหมือนที่เคย แปลผิดตรงไหนก็วานช่วยแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณทุกคนที่แวะมาเยี่ยมชมนะครับ ตอนนี้กำลังแปลเพลง House of gold (แปลเสร็จแล้วครับ จิ้มไปดูได้เลย) แถมเอ็มวีออกแล้วด้วยนะครับ
TWENTY|ONE|PILOTS - MIGRAINE :. คิดมาก(จนปวดหัว)
Am I the only one I know,
Waging my wars behind my face and above my throat?
Shadows will scream that I’m alone,
มีผมเพียงคนเดียวหรือเปล่าที่ล่วงรู้
หนทางการรับมือกับความคิดมากมายภายในหัว
ความมืดต่างกรีดร้องดังระงม เวลาที่ผมต้องอยู่คนเดียว...
*** หลังใบหน้า กับ บนลำคอ ก็หมายถึงหัวไงครับ ส่วนเงาที่กรีดร้องเวลาที่เค้าอยู่คนเดียว ผมก็คิดว่าน่าจะหมายถึง ตอนอยู่คนเดียวความคิดที่อยู่ในหัวก็เลยฟุ้งซ่านออกมาได้ไงละครับ ^___^
I I I I've got a migraine and my pain will range from up, down, and sideways,
Thank God it’s Friday ‘cause Fridays will always,
Be better than Sundays ‘cause Sundays are my suicide days,
I don’t know why they always seem so dismal,
Thunderstorms, clouds, snow, and a slight drizzle,
Whether it’s the weather or the ledges by my bed,
Sometimes death seems better than the migraine in my head,
Let it be said what the headache represents,
It’s me defending in suspense, it’s me suspended in a defenseless test,
Being tested by a ruthless examinant that’s represented best by my depressing,
Thoughts, I do not have writer’s block, my writer just hates the clock,
It will not let me sleep, I guess I’ll sleep when I’m dead,
And sometimes death seems better than the migraine in my head.
ผมปวดหัวไมเกรน และก็เล่นปวดมันไปทั่วทั้งบน ล่าง ซ้าย ขวาของขมับ
โชคดีที่วันนี้เป็นวันศุกร์ เป็นถึงวันศุกร์ก็แน่นอนว่าต้องดีกว่าวันอาทิตย์
ก็เพราะว่าวันอาทิตย์เหมือนเป็นวันสิ้นชีวิตของผมชัดๆ
ผมเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมคนเราถึงต้องทำตัวหมดหวังกันขนาดนี้
ทั้งฝนตกฟ้าร้อง ฝนฟ้าคะนอง หิมะโปรย หรือจะฝนตกปรอยๆ
ไม่ว่าจะสภาพอากาศไหน หรือสภาพที่นอนผมจะเป็นเช่นไร
จนบางทีถ้าตายไปก็น่าจะสุขสบายกว่าอยู่อย่างยุ่งยากวุ่นวายเสียด้วยซํ้า
ไหนลองว่ากันมา ว่าอาการปวดหัวบ่งบอกอะไรได้บ้าง
ของผมว่าตอนที่คนเรากำลังสับสน มันเป็นความสับสนที่ไม่อาจหยุดยั้งได้
เหมือนกำลังถูกทดสอบกับบททดสอบมหาโหดยังไงยังงั้นเลย
คงจะใช่ที่สุดถ้าจะบอกว่าความเจ็บปวดเหล่านั้นแสดงถึงความคิดอันสิ้นหวังของผม
ผมเกลียดการขีดเขียน เพราะอาการปวดหัวทำให้ความคิดผมชักช้าไม่ทันมือ
ความเจ็บปวดนี้ทำผมไม่ได้หลับได้นอน จนกว่าผมจะตายถึงจะได้นอนตายตาหลับ
อย่างที่ว่าถ้ารีบๆตายไปก็น่าจะสุขสบายกว่าอยู่อย่างยุ่งยากวุ่นวายเสียด้วยซํ้าไป
*** เคยคิดอะไรเยอะๆไหมละครับ ผมเลยตอนนี้แหละ ตอนที่แปลเพลงนี้อยู่ตอนเนียะเนี๊ยะแหละ 555 ปวดหัวขึ้นมาตุบๆเชียว เอาจริงๆก็สับสนบางอย่างนั่นแหละ เอาแต่คิดถึงมันมากไป หมกมุ่นมากไปก็ย่อมไม่ดีอยู่แล้วไงครับ
Am I the only one I know,
Waging my wars behind my face and above my throat?
Shadows will scream that I’m alone,
But I know we've made it this far, kid.
มีผมเพียงคนเดียวหรือเปล่าที่ล่วงรู้
หนทางการรับมือกับความคิดมากมายภายในหัว
ความมืดต่างกรีดร้องดังระงม เวลาที่ผมต้องอยู่คนเดียว
แต่ผมรู้ว่าไม่ได้มีเพียงแค่ผมคนเดียว
พวกเราทุกคนต่างเคยรับมือกับความคิดเหล่านี้กันมาหมดแล้ว เพื่อน!
I am not as fine as I seem, pardon,
Me for yelling, I’m telling you green gardens,
Are not what’s growing in my psyche, it’s a different me,
A difficult beast feasting on burnt down trees,
Freeze frame please, let me paint a mental picture portrait,
Something you won’t forget, it’s all about my forehead,
And how it is a door that holds back contents,
That make Pandora’s Box’s contents look nonviolent,
Behind my eyelids are islands of violence,
My mind’s shipwrecked, this is the only land my mind could,
Find, I did not know it was such a violent island,
Full of tidal waves, suicidal crazed lions,
They’re trying to eat me, blood running down their chin,
And I know that I can fight or I can let the lion win,
I begin to assemble what weapons I can find,
‘Cause sometimes to stay alive you got to kill your mind.
ผมไม่ได้สบายดีอย่างที่พวกนายทำเป็นเข้าใจดีกันหรอกนะ
ประทานโทษทีที่ต้องตะโกน ผมบอกว่าสวนของนายเขียวขจีดีจังเลย
แต่ภายในจิตใต้สำนึกของผมไม่ได้เป็นอย่างนั้นแม้แต่นิดเดียว มันคนละเสี้ยวกันเลย
ในใจของผมนั้นเต็มไปด้วยกองซากต้นไม้ที่มอดไหม้ตาย
โทษทีแต่นายช่วยแช่ท่านี้ไว้ก่อนเถอะ ขอผมถ่ายรูปของนายไว้ในใจแป้บนึงนะ
เป็นภาพที่จะไม่มีทางลืม เพราะผมแปะมันไว้ที่หน้าผากของผมแล้ว
ซึ่งตรงนั้นคือประตูที่ซุกซ่อนความคิดมากมายเอาไว้
ที่ซึ่งสามารถระงับสิ่งที่ชั่วร้ายกลับกลายเป็นสิ่งที่ไม่มีพิษมีภัยได้
ภายใต้ดวงตาของผมนั้นเต็มไปด้วยดินแดนที่มีความโหดร้ายรุนแรง
จิตใจของผมได้อับปางหายไป และนี่คือพื้นที่เดียวในใจของผมที่ได้หลงเหลืออยู่
ดินแดนที่ทะเลเต็มไปด้วยเกลียวคลื่นยักษ์กับฝูงสิงโตวายร้ายจอมกระหายเนื้อ
พวกมันกำลังไล่ล่าผมพร้อมกับเลือดที่รินไหลออกมาจากปากของมัน
ผมมีสองทางเลือกคือ จะลองท้าสู้กับพวกมันหรือจะปล่อยให้พวกมันรุมขยํ้าผมตาย
ผมเริ่มรีบเร่งรวบรวมอาวุธเท่าที่จะพอควานหามาได้
เพราะบางทีการที่จะมีชีวิตอยู่ได้ พวกนายก็ต้องรู้จักยับยั้งชั่งใจของพวกนายกันเสียก่อน
*** ท่อนนี้แปลง่ายกว่าอันบนเยอะเลย T.T ถ้าอยากจะมีอยู่ชีวิตต่อไป ของยังงี้มันอยู่ที่ใจนั่นเองครับ เราไม่สามารถห้ามความคิดได้ แต่เราจะเลือกทำตามความคิดนั่นหรือเปล่ามันก็อีกเรื่องนึงครับ
ในหัวของเราไม่ว่าความจริงมันจะร้ายแรงหรือโหดร้ายยังไง แต่เราก็สามารถแสดงมันออกมาในแบบที่ไม่เป็นอันตรายกับใครก็ได้นี่ครับ ผมชอบเพลงนี้มากเลย เป็นเพลงที่จะสื่อคำว่าหัวได้จากอวัยวะอื่นๆ เช่น บนลำคอ เบื้องหลังใบหน้า ภายใต้ลูกกะตา หรือจะหน้าผาก แต่เป็นเพลงที่เข้าใจยากดีแท้ เข้าใจแล้วว่าทำไมวงนี้ถึงไม่ค่อยดัง เพราะแต่งเพลงยากไปอย่างนั้นหรือ ?
Am I the only one I know,
Waging my wars behind my face and above my throat?
Shadows will scream that I’m alone,
But I know we've made it this far, kid.
มีผมเพียงคนเดียวหรือเปล่าที่ล่วงรู้
หนทางการรับมือกับความคิดมากมายภายในหัว
ความมืดต่างกรีดร้องดังระงม เวลาที่ผมต้องอยู่คนเดียว
แต่ผมรู้ว่าไม่ได้มีเพียงแค่ผมคนเดียว
พวกเราทุกคนต่างเคยรับมือกับความคิดเหล่านี้กันมาหมดแล้ว เพื่อน!
And I will say that we should take a day to break away,
From all the pain our brain has made,
The game is not played alone.
And I will say that we should take a moment and hold it,
And keep it frozen and know that,
Life has a hopeful undertone.
และผมอยากจะบอกว่า พวกเราน่าจะต้องใช้เวลาครุ่นคิดกันสักนิด
เพื่อเอาชีวิตรอดจากความเจ็บปวดที่หัวของเราคิดมันออกมา
เกมนี้ไม่ได้มีผู้เล่นแค่เพียงคนเดียว
และผมอยากจะบอกอีกว่า พวกเราน่าจะใช้จังหวะนี้ยับยั้งมันเอาไว้
พร้อมกับสยบมันให้แน่นิ่งไป และพึงระลึกไว้เสมอว่า
ชีวิตนี้ยังมีหวังสำหรับพวกนายเสมอ
*** เกมนี้ไม่ได้เล่นคนเดียวก็หมายถึงไม่มีคนที่ต้องเจอเรื่องแบบนี้แค่เพียงคนเดียวไงครับ คนอื่นๆเค้าก็เป็นกัน
Am I the only one I know,
Waging my wars behind my face and above my throat?
Shadows will scream that I’m alone,
But I know we've made it this far, kid.
มีผมเพียงคนเดียวหรือเปล่าที่ล่วงรู้
หนทางการรับมือกับความคิดมากมายภายในหัว
ความมืดต่างกรีดร้องดังระงม เวลาที่ผมต้องอยู่คนเดียว
แต่ผมรู้ว่าไม่ได้มีเพียงแค่ผมคนเดียว
พวกเราทุกคนต่างเคยรับมือกับความคิดเหล่านี้กันมาหมดแล้ว เพื่อน!
Made it this far
Made it this...
เราผ่านมันมาถึงขนาดนี้แล้ว
เราผ่านมันมา...
Lyrics from >>> http://www.twentyonepilots.com/music/migraine
เจอฅนชอบวงเดียวกันแล้วดีใจจัง TT ขอบคุณสำหรับการขุดค้นเอ็มวีนะคะ
ตอบลบฟ้งเพลงที่พี่แปล โคตรจะได้ข้อคิด
ตอบลบI love it ^^
ตอบลบgood job.
ตอบลบขอบคุณนะคะ
ตอบลบLove it
ตอบลบ