[แปลเพลงสากล] YOUNG THE GIANT - MY BODY


>>> อันนี้เป็นผลงานตอนที่อยู่ค่ายโร้ดรันเนอร์นะครับ ก่อนที่ตอนนี้จะมาเซ็นอยู่กับฟิวเอลบายราเม็ง ซึ่งเป็นค่ายเดียวกันกับ Twenty|one|pilots วงโปรดของผมนั่นเองครับ 555 เนื้อเพลงเรียบง่าย แต่ไม่ค่อยรู้เรื่อง งานนี้จึงต้องออกค้นหาข้อมูลกันทั่วทีปทั่วแดนเลย T.T เพราะผมตีความเองได้ไม่ครบหรอกเนื่องจากมันยากมาก จึงต้องเอาจากหลายสำนักมาเกลี่ยๆให้เข้ากัน จากนั้นก็แปลให้ออกมาตามที่ผมเข้าใจอีกที T.T

YOUNG THE GIANT - MY BODY :. ร่างกายนี้

Stop! the train is riding 
Down to the station 
Where you lived 
When we were school kids

ช้าก่อน รถไฟกำลังใกล้เข้ามาแล้ว
เข้ามาเทียบท่าที่สถานี
เป็นสถานที่ที่เราอาศัยอยู่
เมื่อตอนที่เรานั้นยังเป็นเด็กนักเรียน

Hey! the rails are gone now 
And I am falling down
Fools in a spiral 
Round this town of steel

เฮ้ย แต่รางรถไฟนั้นหายไปเสียแล้ว
และผมก็ได้แต่ล้มลง
วนเวียนอยู่ในวังวน
กลางเมืองแห่งความสับสนนี้
*** อันนี้ผมค้นเจอมาครับ คล้ายๆกับผมเลย คือผมจับประเด็นจากการดูเอ็มวีว่าเป็นการค้นหาตัวตน ค้นหาเส้นทางของตัวเอง ซึ่งอันนี้เอามาจาก Lyricsinterpretation บวกกับความคิดผมด้วย ประมาณว่ารถไฟนั้นเปรียบเหมือนตัวขนส่งตัวเราให้ไปตามเส้นทาง ไปสู่จุดหมายปลายทางของเราใช่ไหมครับ 
     ฉะนั้นสิ่งที่เราต้องทำก็คือหาขบวนรถไฟของเราให้เจอ ซึ่งแน่นอนว่ามันมีหลายราง สำหรับคนที่เลือกเดินเส้นทางแตกต่างกันไป และเวลาเองก็สำคัญ เราต้องหารถไฟขบวนของเราให้เจอ พร้อมกับเวลาที่มันจะออกขบวน ดังนั้นรถไฟนี้อาจจะหมายถึงโอกาสที่ประจวบเหมาะก็ได้นะ ผมว่า 555 และจากท่อนนี้ เราก็จะเห็นว่าเขานั้นยังทำไม่สำเร็จ ก็เลยต้องติดแหง็กอยู่ในสถานที่เดิมต่อไป เพื่อเฝ้ารอรถไฟขบวนต่อๆไป

My body tells me no 
But I won't quit 
Cause I want more 
Cause I want more

ร่างกายนี้มันบอกว่า พอทีเถอะ
แต่ยังไม่ตัดใจยอมแพ้
เพราะแค่นี้มันยังน้อยไป
เพราะแค่นี้มันยังน้อยไป

Stop! the train is riding 
Down to the station 
Where I lived 
When I was a cool kid

ช้าก่อน รถไฟกำลังใกล้เข้ามาแล้ว
เข้ามาเทียบท่าที่สถานี
เป็นสถานที่ที่ผมอาศัยอยู่
เมื่อตอนที่ผมนั้นยังเป็นเด็กเป็นเล็ก

Hey! is it my fault that 
The fallen embers burn
Down in a spiral
Round your crown of thieves

เฮ้ย ไม่ใช่ความผิดของผมสักนิด
ที่ดวงไฟของใครหลายคนนั้น
กลับต้องมอดดับไป
ยอมถอดใจ สิ้นใจตายคาที่แห่งนี้
*** ต่อจากก่อนหน้านี้นะครับ คือผมติดบรรทัดสุดท้ายของท่อนนี้แหละ เลยไม่ได้ลงเพลงนี้สักกะที ก็เลยขอดำนํ้าไปเลยแล้วกันครับ 555 ก็คืออย่างที่รู้กันอยู่ ว่าคนที่สามารถขึ้นรถไฟไปได้ นั่นก็คือคุณที่มีเส้นทางเป็นของตัวเองแล้วใช่ไหมครับ และถ้าใครล้มเหลว ในท่อนนี้ก็คือดวงไฟที่มอดดับ ความหมายก็คืออาจะถอดใจกันไปเสียแล้ว และเขาก็บอกว่าไม่ใช่ความคิดของเขาสักหน่อย ที่คนเหล่านี้ล้มเหลวลงและก็ตัดใจยอมแพ้กันไปแล้ว เส้นทางของใครก็ของมัน ถ้ายอมแพ้ก็ต้องโทษได้แค่ตัวเองเท่านั้น 
    แต่สำหรับตัวเขาเอง ท่อนฮุกน่าเป็นท่อนที่เป็นเขามากที่สุดครับ คือยังไงๆเขาก็จะดันทุรัง ไม่มีวันจะยอมแพ้ แม้ว่าร่างกายจะยํ่าแย่แค่ไหนก็ตาม ส่วนบรรทัดสุดท้ายขอบายนะครับ ขอมั่วไปเลยละกันนะ 55555

My body tells me no 
But I won't quit 
Cause I want more 
Cause I want more

ร่างกายนี้มันบอกว่า พอทีเถอะ
แต่ยังไม่ตัดใจยอมแพ้
เพราะแค่นี้มันยังน้อยไป
เพราะแค่นี้มันยังน้อยไป

It rides out of town

รถไฟมันแล่นออกนอกเมืองไปเสียแล้ว

Oh, it's my road
It's my road

โอ้ นี่คือหนทางของผม
มันคือเส้นทางของผม

And it's my war
It's my war

นี่แหละคือสังเวียนของผม
มันคือสังเวียนของผม

His eyes are open
His eyes are open

สายตาของเขานั้นสอดส่อง
สายตาของเขานั้นสอดส่อง
*** เพื่อมองหาขบวนรถไฟหรือโอกาสที่กำลังจะเข้ามานั่นเองครับ

Oh, cause I want more
I want more
I want more

โอ้ ก็เพราะผมต้องการมากกว่านี้
แค่นี้มันยังน้อยไป
แค่นี้มันยังน้อยไป

His eyes are open
His eyes are open

สายตาของเขานั้นสอดส่อง
สายตาของเขานั้นสอดส่อง

Hey, hey, hey-

My body tells me no 
But I won't quit 
Cause I want more 
Cause I want more

ร่างกายนี้มันบอกว่า พอทีเถอะ
แต่ยังไม่ตัดใจยอมแพ้
เพราะแค่นี้มันยังน้อยไป
เพราะแค่นี้มันยังน้อยไป

It rides out of town

รถไฟมันแล่นออกนอกเมืองไปเสียแล้ว
*** เรามาลอง"พยายาม"ถอดความกันดูนะครับ
     ก็ต้องงงกันใช่ไหมครับ เพราะผมเองก็งงเหมือนกัน เป็นเพลงที่ดูเหมือนจะแปลง่ายมาก จริงๆเนื้อเพลงเองก็มีเพียงแค่ไม่กี่ท่อน อาศัยท่อนเดิมๆร้องซํ้าๆ แต่พอแปลออกมาดันหงายเงิบ เพราะดันไม่รู้เรื่องเสียนี่ ผมไม่ค่อยชอบเนื้อเพลงแบบนี้เลย แบบที่มันสั้นกระชับ แต่ผมนั้นจับใจความหรือจับประเด็นไม่ได้สักอย่างเลย T.T อาจเป็นเพราะฝีมือยังไม่ถึงขั้น ต้องหันมาฟังเพลงและดูเอ็มวีให้มันมากกว่านี้ไปอีก 555
     เรามาเข้าเรื่องกันเถอะ ฟังผมพล่ามตั้งสามสี่บรรทัดแล้ว(แน่นอนครับ รวมถึงบรรทัดนี้ด้วย 55555) เนื่องจากที่ผมบอกว่าฟังเพลงก็แล้ว แปลออกมาก็แล้ว ดันมืดแปดด้านอยู่เหมือนเดิม ก็เหลือตัวช่วยสุดท้ายแล้วครับ ซึ่งก็คือเอ็มวีนั่นเองครับ แล้วเราก็จะมาดูเอ็มวีกันนะ ตามเอ็มวีจะเห็นว่า มีผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังตัดแปะภาพสักอย่างอยู่ และก็มีช่องว่างเหลือไว้ให้แปะอีกที่หนึ่ง จากนั้นเขาก็เหลือบไปเห็นร่างของตัวเองหรือไม่ก็ฝาแฝดอีกคนของเขาเข้าให้ พี่แกก็เลยรีบสะกดรอยตามไป แต่ก็ไม่เชิงว่าสะกดรอยหรอก เพราะอีกคนมันก็รู้ตัว เห็นหันหน้าหันหลังมามองกันจะๆ 555 แต่แล้วก็มีผู้คนมากหน้าหลายตาคอยมาขีดขวาง กีดกัน และเบี่ยงเบนความสนใจจนเกือบจะคลาดสายตาไปจากตัวเองอีกคน แต่สุดท้ายเขาก็ยังหากันเจอครับ โดยจะเห็นว่าตัวตนอีกคนหนึ่งของเขากลายมาเป็นภาพตัดแปะที่เขานั้นเว้นที่ไว้ได้อย่างพอดิบพอดีนั่นเองครับ 
     ถ้าเอาตามความคิดของผม ผมคิดว่าใจความของเพลงนี้นั้นเป็นการค้นหาตัวตนที่แท้จริงของตัวเองครับ การเลือกเดินไปตามเส้นทางของตัวเอง ถึงแม้จะบางใครบางคนผ่านเข้ามาทำให้ไขว้เขว ทำให้สับสนวุ่นวายกันไปบ้าง แต่ก็ยังคงมุ่งหน้าตามเส้นทางของตัวเองต่อไปโดยไม่มีวันเปลี่ยนแปลงครับ ผมจึงแปลไปตามนี้ !

ความคิดเห็น