>>> ถ้าเกิดว่าใครไม่อยากอ่านตำนานเรื่องนี้ ก็ข้ามไปอ่านคำแปลได้เลยนะครับ แต่ผมขอแนะนำให้อ่านจะดีกว่า จะได้เข้าใจเพลงนี้มากขึ้นไปอีกครับ (ไม่ได้เขียนเองนะครับ ขออนุญาติเจ้าของโพสด้วยนะครับ)
ที่มา >>> http://www.komkid.com
ไมดาส เป็นชื่อของกษัตริย์พระองค์หนึ่งที่ปกครองนครไฟร์เกีย พระองค์เป็นราชโอรสของ พระเจ้ากอดิอุส โดยไมดาสทรงได้รับราชสมบัติต่อจากพระราชบิดา ซึ่งในเวลานั้นนครไฟร์เกียเป็นหนึ่งในนครที่มั่งคั่งและรุ่งเรืองที่สุดนครหนึ่งด้วยพระปรีชาสามารถในการบริหารปกครองของพระเจ้ากอดิอุส
หลังจากกษัตริย์ไมดาสทรงช่วยไซเลนนัสเอาไว้ เทพไดโนนีซุสก็เสด็จมาถึง พระองค์ทรงโปรดปรานไมดาสเป็นอันมากที่ช่วยพระอาจารย์ของพระองค์ จึงทรงออกปากว่าจะให้พรไมดาสหนึ่งข้อตามแต่จะขอ ซึ่งเมื่อได้ยินดังนั้น กษัตริย์ไมดาสก็ลืมองค์ปล่อยให้ความโลภเข้าครอบงำ จึงทรงขอพรที่แปลกประหลาดที่สุด โดยทรงขอแก่เทพไดโอนีซุสว่า ขอให้ทุกสิ่งที่ตนสัมผัสนั้นกลายเป็นทองคำทั้งหมด
แม้จะทรงแปลกพระทัย แต่ไดโอนีซุสก็ประทานพรให้ตามที่อีกฝ่ายขอ จากนั้นพระองค์พร้อมกับพระอาจารย์ก็เสด็จจากไป ส่วนไมดาสนั้นเมื่อได้พรแล้วก็ทรงทดลองด้วยการแตะของต่างๆในวังจนกลายเป็นทองคำไปหมด ยังสร้างความปรีดาให้แก่พระองค์เป็นอย่างมาก
ทว่าเมื่อถึงเวลาที่จะเสวย ไมดาสก็ทรงพบว่า ทั้งอาหารและน้ำที่พระองค์สัมผัสกลายเป็นทองคำจนหมดสิ้น ทำให้พระองค์ไม่สามารถเสวยสิ่งใดได้เลย และที่เลวร้ายกว่านั้นก็คือ พระองค์เผลอไปโอบกอดพระธิดาองค์น้อยที่ทรงรักมากเข้า ทำให้พระธิดากลายเป็นรูปปั้นทองคำไป
กษัตริย์ไมดาสทรงเสียพระทัยเป็นอันมาก พระองค์ได้สวดอ้อนวอนขอให้เทพไดโอนีซุสทรงเมตตาลบล้างพรที่ทรงประทานให้ ในที่สุด เทพเจ้าไดโอนีซุสทรงเกิดความสงสารจึงทรงให้บอกให้ไมดาสไปชำระล้างพรที่แม่น้ำแพคโตลัส กษัตริย์ไมดาสทรงทำตามที่เทพเจ้าตรัสบอก และพรวิเศษก็หายไป พร้อมกับทุกสิ่งกลับคืนดังเดิม อย่างไรก็ตาม พรของไดโอนีซุสที่ถูกชำระล้าง ก็ได้ทำให้แม่น้ำทั้งสายกลายเป็นผงทองคำ และบทเรียนที่ราชาไมดาสได้รับในครั้งนี้ ก็คือ "ความมั่งคั่งนั้น ไม่ได้นำมาซึ่งความสุขเสมอไป"
IMAGINE DRAGONS - GOLD :. สัมผัสทองคำ
Fast comes the blessing of all that you dreamed
But then comes the curses of diamonds and rings
Only at first did it have its appeal
But now you can’t tell the false from the real
เพียงชั่วพริบตาเดียว คำปรารถนานั้น ได้กลับกลายเป็นจริง
แต่ทว่าความมั่งคั่งเหล่านั้น กลับต้องแลกมาด้วยคำสาปร้าย
หนแรกที่ลิ้มลองอำนาจนั้น มันช่างแสนชวนเย้ายวน
จนป่านนี้แล้ว เจ้าไม่อาจจำแนกสิ่งแปลกปลอมออกจากสิ่งของที่เที่ยงแท้
*** ตอนได้อำนาจนั้นมาแล้ว พอลองดูครั้งแรกก็ต้องติดใจซิครับ แต่หารู้ไม่ว่าลางร้ายกำลังถามหาอยู่ :)
Who can you trust?
Who can you trust?
แล้วเจ้าจะไว้ใจใครได้
แล้วเจ้าจะไว้ใจใครได้
*** มีอำนาจนี้อยู่ในมือ ก็กลัวใครจะมาปองร้ายละมั้งครับ เพราะอาจมีคนอิจฉา ก็เลยไม่กล้าไว้ใจใคร
When everything, everything, everything you touch turns to gold, gold, gold
Everything, everything, everything you touch turns to gold, gold
Gold
Gold
Gold
Gold
ก็ในเมื่อทุกสิ่ง ในเมื่อทุกอย่าง ทุกสิ่งทุกอย่างที่เจ้าได้สัมผัส ต้องกลับกลายเป็นทอง
ในเมื่อทุกสิ่ง ในเมื่อทุกอย่าง ทุกสิ่งทุกอย่างที่เจ้าได้สัมผัส ต้องกลับกลายเป็นทอง
ทอง
ทอง
ทอง
ทองทั้งสิ้น
*** จริงๆแล้ว ท่อนนี้ความหมายอาจจะสื่อไปในทางที่ดีก็ได้นะครับ ก็เหมือนว่า มือขึ้น ขาขึ้น จะหยิบ จะจับอะไรก็กลายเป็นเงินเป็นทองไปซะหมด
Statues and empires are all at your hands
Water to wine and the finest of sands
When all that you have’s turnin’ stale and it’s cold
Oh, you no longer fear when your heart’s turned to gold
ทั้งประติมากรรม และอาณาจักรแห่งนี้ ได้ตกมาอยู่ในกำมือของเจ้าแล้ว
อีกทั้งแม่นํ้าลำธาร และผืนทรายอันนิ่มนวล
เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างในเงื้อมมือของเจ้าต้องผุกร่อน และเย็นยะเยือก
ทว่าความหวาดกลัวนั้นพลันหายไป เมื่อเจ้าได้ครอบครองดวงใจซึ่งกลับกลายเป็นทอง
*** เมื่อมีอำนาจที่เปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่างเป็นทองแล้ว เขาก็ไม่ต้องวิตกกังวลเรื่องอาณาจักรของเขา(ได้รับสืบทอดอาณาจักรต่อมาจากพระบิดาอีกทีครับ) เพราะย่อมมีกินมีใช้เหลือเฟือแน่นอน แม่นํ้าลำธาร ดินแดนผืนทรายอันนุ่มนวล ผมคิดเอาว่าสมัยก่อน ต้องสู้รบปรบมือกันเพื่อแย่งชิงดินแดนใช่ไหมครับ ฉะนั้นก็หมดห่วงไปอีกเปราะ เพราะว่ามีเงิน(ทอง)แล้วจะกว้านซื้ออาวุธยังไงก็ได้ จริงไหมครับ ฉะนั้น ท่อนนี้จะพูดถึง สิ่งที่เขากลัวจะต้องสูญเสียไป เขาจึงวอนขออำนาจนั้นมา เพื่อปกป้องสิ่งเหล่านี้ไว้ครับ แต่น่าจะปนไปด้วยความโลภมากกว่า :)
Who can you trust?
Who can you trust?
แล้วเจ้าจะไว้ใจใครได้
แล้วเจ้าจะไว้ใจใครได้
When everything, everything, everything you touch turns to gold, gold, gold
Everything, everything, everything you touch turns to gold, gold
Gold
Gold
Gold
Gold
ก็ในเมื่อทุกสิ่ง ในเมื่อทุกอย่าง ทุกสิ่งทุกอย่างที่เจ้าได้สัมผัส ต้องกลับกลายเป็นทอง
ในเมื่อทุกสิ่ง ในเมื่อทุกอย่าง ทุกสิ่งทุกอย่างที่เจ้าได้สัมผัส ต้องกลับกลายเป็นทอง
ทอง
ทอง
ทอง
ทองทั้งสิ้น
I’m dying to feel again
Oh, anything at all
But, oh, I feel nothing, nothing, nothing,
Nothing
ข้าอยากจะกลับมามีความรู้สึกอีกครั้ง
โอ้ เอาความรู้สึกของข้าคืนมา
แต่ทว่า ข้ากลับไม่อาจรับรู้ ไม่อาจรู้สึก ไม่อาจรู้สา
ด้านชาจนหมดสิ้น
*** ท่อนนี้ผมไม่ค่อยแน่ใจนะครับ น่าจะไม่เหมือนในตำนาน ผมคิดว่าอำนาจที่สัมผัสสิ่งของแล้วทำให้กลายเป็นทอง อาจจะย้อนกลับมาเล่นงานตัวเขาเอง(ในตำนานเป็นลูกสาวครับที่กลายเป็นทอง) ทำให้ความรู้สึกทั้งหมดได้ตายด้านไปแล้วนั่นเองครับ หรือจะสื่อว่าบ้าเงินจนกู่ไม่กลับแล้วก็ได้มั้งครับ ก็ว่ากันไป 555 แล้วแต่ใครจะคิดได้ครับ :) ส่วนท่อนที่บอกว่า Anything at all ก็ประมาณว่า อยากกลับมามีความรู้สึก ขอให้มีความรู้สึกอะไรก็ได้ทั้งนั้น ประมาณนี้แหละครับ แต่ของผมขอแปลให้มันสอดคล้องกันดีกว่าครับ :)
When everything, everything, everything you touch turns to gold, gold, gold
Everything, everything, everything you touch turns to gold, gold
Gold
Gold
Gold
Gold
ก็ในเมื่อทุกสิ่ง ในเมื่อทุกอย่าง ทุกสิ่งทุกอย่างที่เจ้าได้สัมผัส ต้องกลับกลายเป็นทอง
ในเมื่อทุกสิ่ง ในเมื่อทุกอย่าง ทุกสิ่งทุกอย่างที่เจ้าได้สัมผัส ต้องกลับกลายเป็นทอง
ทอง
ทอง
ทอง
ทองทั้งสิ้น
Lyrics source >>> http://www.directlyrics.com/imagine-dragons-gold-lyrics.html
เพลงเพิ่งออกมาได้แปปเดียวเอง แปลได้เร็วมากเลยคะ
ตอบลบเพลงความหมายดีทุกเพลงเลยวงนี้
นี่ก็นั่งอ่านตำนานจนจบ555 เพลงดีค่ะแปลดีด้วยพึ่งออกมา4วันเองพี่เเปลเร็วมากๆ
ตอบลบปลื้มมม :D
ชอบการแปลเพลงของ Blog นี้มากค่ะ ชอบที่ผู้แปล ไม่ใช่แค่แปลเพลงเท่านั้น แต่ยังแปลเจตนาของเพลงที่นักร้อง/ผู้เขียนเพลง ต้องการสื่อออกมา ทำให้เพลงดูมีเรื่องราวหนักแน่นขึ้น จากเดิมที่ฟังแล้วเฉย กลายเป็นชอบเพลงนั้นๆขึ้นมาเลยค่ะ
ตอบลบขอเสนอเกี่ยวกับการแปลเนื้อเพลงนี้หน่อยนะคะ
ท่อนของ I’m dying to feel again น่าจะสอดคล้องจะท่อนที่ว่า you no longer fear when your heart’s turned to gold นะคะ
อารมณ์น่าจะประมาณว่า เมื่อหัวใจกลายเป็นทอง ไม่เพียงแต่ความรู้สึกกลัวเท่านั้นที่หายไป แต่ทุกๆความรู้สึกที่มี ของมนุษย์ปุถุชน ก็หายไปด้วย เขาจึงยอมที่จะตาย เพื่อที่จะได้ "รู้สึก" อีกครั้ง
Dying to do something ไม่ได้แปลว่า ตายหรือเสียชีวิตนะครับ แต่เป็นสำนวนที่แปลว่า กระตือรือร้นต้องการทำบางอย่างเป็นอย่างมากครับ เท่าที่ผมเข้าใจ ความหมายในภาษาไทยก็คงประมาณว่า อยาก...จะตายอยู่แล้ว เช่น ฉันอยากเจอหน้าเขาจะตายอยู่แล้ว I'm dying to see his face again. ประมาณนี้ครับ :)
ลบ