PANIC! AT THE DISCO - THIS IS GOSPEL :. ธรรมกถา
This is gospel for the fallen ones
Locked away in permanent slumber
Assembling their philosophies
From pieces of broken memories
นี่คือคำสอนสำหรับผู้ที่ไร้ซึ่งลมหายใจ
ปิดตายไว้ในการหลับใหลชั่วนิจนิรันดร์
ปะติดปะต่อขึ้นมาเศษชิ้นส่วนแห่งปรัชญา
จากซากของความทรงจำที่แหลกเป็นเสี่ยง
*** ตามร็อคจีเนียสบอกว่าน่าจะหมายถึงคนที่ตายไปแล้ว ดวงวิญญาณได้ดับสลายไปแล้ว เหลือเพียงเศษชิ้นส่วนความทรงจำ ความเชื่อ ตอนที่เคยมีชีวิตอยู่อะครับ
Oh, this is the beat of my heart, this is the beat of my heart
Oh, this is the beat of my heart, this is the beat of my heart
นี่คือเสียงจังหวะการเต้นของหัวใจ นี่คือเสียงจังหวะการเต้นของหัวใจ
นี่คือเสียงจังหวะการเต้นของหัวใจ นี่คือเสียงจังหวะการเต้นของหัวใจ
The gnashing teeth and criminal tongues conspire against the odds
But they haven’t seen the best of us yet
เสียงฟันกระแทกฟัน เสียงลิ้นกระทบลิ้น และเสียงซุบซิบวางแผนลับ
ไม่มีใครเคยรู้ซึ้ง ถึงพลังเฮือกสุดท้ายในการดิ้นรนให้หลุดพ้นของผู้คนเหล่านี้
*** อันตรงนี้ขออธิบายยาวตามในร็อคจีเนียสเลยนะครับ อ้างตามกอสเปลในไบเบิลเลยเชียวนะครับ 555
มันจะแบ่งมนุษย์เกี่ยวกับกรณีในการถูกจองจำไว้ 4 ประเภทดังนี้ครับ
1.นักโทษที่ถูกจองจำในขุมนรก "โยนคนโฉดไร้ค่าเหล่านี้ออกไปข้างนอก ให้ไปอยู่ในความมืดมิด เป็นที่ที่พวกมันจะรํ่าร้อง และเอาฟันกระทบกัน(เสียงกัดฟัดอะแหละ)" ตามร็อคจีเนียสบอกว่า คนเหล่านี้จะโดนทรมานและคุมขังไว้ในขุมนรกตลอดชีวิตเลยครับ คนพวกนี้จึงมักเป็นพวกที่ยอมทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อแหกขุมนรกออกมาให้ได้ครับ ไม่ว่าจะโดยวิธีการใดๆก็ตาม
2.นักโทษที่ถูกจองจำไว้ในคุกทั่วไป คนที่ติดอยู่ในนี้ก็ย่อมแอบวางแผนเพื่อที่จะแหกคุกออกไปไงครับ
3.คือ บุคคลทั่วไป ที่ต้องการหลีกหนีจากความเจ็บปวด ความทรมาณพื้นฐานธรรมดาๆอะครับ มีเกิด แก่ เจ็บ ตายทั่วๆไป ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดนะ T.T
4.และสุดท้ายก็คือ บุคคลที่ต้องการปลิดชีวิตตัวเอง เรียกง่ายๆก็คือฆ่าตัวตายนั่นแหละครับ เพราะพวกเขาต้องการที่จะหลีกหนี ต้องการอิสระ แบบที่ว่าหายไปจากโลกนี้เลยครับ
ซึึ่งผู้คนเหล่านี้ ต่างล้วนที่จะกระหายต่ออิสระในระดับที่ไล่เลี่ยกันไป แต่สิ่งที่ทุกคนมี้หมือนกันคือความดิ้นรนที่จะต้องการหลุดพ้น ให้ตัวเองได้มีอิสระที่แท้จริงยังไงละครับ
If you love me let me go
If you love me let me go
‘Cause these words are knives and often leave scars
The fear of falling apart
And truth be told, I never was yours
The fear, the fear of falling apart
ถ้ารักกันจริง ก็ขอให้ปล่อยกันไปเถอะ
ถ้ารักกันจริง ก็ขอให้ปล่อยกันไปเถอะ
ก็เพราะไอ้คำพูดพรรค์นี้มันเปรียบดังเช่นคมมีด ที่พร้อมกรีดแทงทิ้งบาดแผลไว้ภายใน
ความหวาดกลัวที่จะต้องแตกแยก
เมื่อความจริงถูกเปิดโปง กลับไม่เหลือแม้เยื่อใยต่อกันเลย
ความเกรงกลัว ความหวาดกลัวที่จะต้องแยกจาก
*** ผมแปลเอง แล้วมันยากแฮะ เพราะไม่รู้ว่าจะใช้สรรพนามแบบไหนดีอะ เนื่องจากเค้าพูดถึงสมาชิกวงกันเอง สุดท้ายผมก็เลยขอแปลเลี่ยงๆคำสรรพนามเข้าไว้นะครับ ผมคิดว่า น่าจะเป็นคำพูดคนที่ต้องการออกจากวงครับ "ถ้ารักกันจริง ก็ขอให้ปล่อยพวกเขาไปเถอะ" ได้ยินแบบนั้น เขาก็จี้ดซิครับ อยู่ด้วยกันมาก็ตั้งนาน
Oh, this is the beat of my heart, this is the beat of my heart
Oh, this is the beat of my heart, this is the beat of my heart
นี่คือเสียงจังหวะการเต้นของหัวใจ นี่คือเสียงจังหวะการเต้นของหัวใจ
นี่คือเสียงจังหวะการเต้นของหัวใจ นี่คือเสียงจังหวะการเต้นของหัวใจ
This is gospel for the vagabonds,
Ne'er-do-wells and insufferable bastards
Confessing their apostasies
Led away by imperfect impostors
นี่คือคำสอนสำหรับไอ้พวกร่อนเร่พเนจร
ไอ้พวกอันธพาลเกกมะเหรก ไอ้พวกสารเลวตบะแตก
สารภาพหมดเปลือกถึงการหมดสิ้นซึ่งศรัทธา
แล้วยอมโดนนำพา โดยจอมลวงผู้แปดเปื้อน
*** ประมาณว่าตัวเขา(นักร้อง) เปรียบตัวเองเหมือนกับเป็นผู้นำให้คนเหลือเดนเหล่านี้ครับ ซึ่งจะเห็นว่ามันแตกต่างจากท่อนแรกแบบตรงกันข้ามกันเลย อันนั้นน่าจะตามหลักศาสนา เป็นสำหรับส่วนของคนดี แต่ส่วนท่อนนี้น่าจะเป็นความคิดของเขา ซึ่งก็บอกเองด้วยว่าเป็นผู้ที่ไม่สมบูรณ์แบบเลย เป็นส่วนสำหรับคนเลวครับ
Oh, this is the beat of my heart, this is the beat of my heart
Oh, this is the beat of my heart, this is the beat of my heart
นี่คือเสียงจังหวะการเต้นของหัวใจ นี่คือเสียงจังหวะการเต้นของหัวใจ
นี่คือเสียงจังหวะการเต้นของหัวใจ นี่คือเสียงจังหวะการเต้นของหัวใจ
Don’t try to sleep through the end of the world
And bury me alive
'Cause I won’t give up without a fight
จงอย่ามัวหลับใหล ข้ามผ่านคํ่าคืนสุดท้ายของโลกนี้
และฝังกันทั้งเป็นเฉกเช่นนี้
ก็เพราะคราวนี้เห็นที ต้องมีเลือดตกยางออกกันเป็นแน่แท้
*** ผมก็ไม่แน่ใจนะครับ แต่อาจเป็นประมาณว่าก่อนที่เพื่อนเขาจะขอลาออกจากวงไปเนี่ย เขาก็ไม่ได้ยอมกันง่ายๆใช่ป่าว อาจจะมีการชกต่อยกันสักเล็กน้อยก็เป็นไปได้ครับ
If you love me let me go
If you love me let me go
‘Cause these words are knives and often leave scars
The fear of falling apart
And truth be told, I never was yours
The fear, the fear of falling apart
ถ้ารักกันจริง ก็ขอให้ปล่อยกันไปเถอะ
ถ้ารักกันจริง ก็ขอให้ปล่อยกันไปเถอะ
ก็เพราะไอ้คำพูดพรรค์นี้มันเปรียบดังเช่นคมมีด ที่พร้อมกรีดแทงทิ้งบาดแผลไว้ภายใน
ความหวาดกลัวที่จะต้องแตกแยก
เมื่อความจริงถูกเปิดโปง กลับไม่เหลือแม้เยื่อใยต่อกันเลย
ความเกรงกลัว ความหวาดกลัวที่จะต้องแยกจาก
Oh, the fear of falling apart
Oh, the fear, the fear of falling apart
Oh, the fear of falling apart
Oh, the fear, the fear of falling apart
Oh, the fear of falling apart
Oh, the fear, the fear of falling apart
Oh, the fear of falling apart
Oh, the fear, the fear of falling apart
ความหวาดกลัวที่จะต้องแตกแยก
ความเกรงกลัว ความหวาดกลัวที่จะต้องแยกจาก
(Oh, this is the beat of my heart, this is the beat of my heart)
The fear of falling apart
นี่คือเสียงจังหวะการเต้นของหัวใจ นี่คือเสียงจังหวะการเต้นของหัวใจ
ความหวาดกลัวที่จะต้องแยกจาก
Lyrics source >>> http://www.azlyrics.com/lyrics/panicatthedisco/thisisgospel.html
อ้าาา คุณเจ้าของบลอคแปลเพลงดีจังเลยคะ ฟังเพลงแนวเดียวกันเลย เปิดมากี่เพลง ชอบทุกเพลงเลย สู้นะคะ จะแวะมาฟังด้วยอีกนะ /ยิ้มยิ้ม
ตอบลบเยี่ยมไปเลยครับ มุมมองของที่มาของเพลงกับการแปล ดูสวยงามครับ ทำให้ผมอินกับเพลงมากกว่าเดิม // แต่ผมดัดแปลงมุมมองนิดหน่อย คือ อิงไปทางด้าน ชาย - หญิง (ไม่เกี่ยวกับวง) ซึ่ง ความหมายก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก ขอบคุณที่แปลมาให้ครับ ปล.ฟังครั้งแรก ก็รักเลยครับเพลงนี้
ตอบลบคุณเจ้าของบล็อคแปลดีมากๆๆๆเลยค่ะ ตอนแรกแค่ฟังเพลงก็รู้สึกว่าเป็นเพลงที่เจ็บปวดมากอยู่เเล้ว พอมาอ่านคำแปลกับประวัติวงแล้วนี่เศร้าลึกไปอีก
ตอบลบอมก.แปลดีมากเลย เข้าใจเพลงขึ้นเยอะเลย ฮืออ
ตอบลบ